วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

กิจวัตรประจำวัน อาทิตย์ที่สอง :)

วันเสาร์ 
- ไปถ่ายสารคดีเกี่ยวกับม้า เหนื่อยย ToT
วันอาทิตย์
- ไปเรียนชดเชย ไม่ได้พักเลยย
วันจันทร์ 
- ตื่นสายเลยจ้าาา 555
วันอังคาร
- เรียน เรียน เรียน
วันพุธ
- หลับในคาบคณิตศาสตร์ การบ้านไม่ได้ส่ง :(
วันพฤหัสบดี
- สอบวิทย์ ไม่ได้อ่านหนังสือ
วันศุกร์ 
- จะกลับบ้าน ฝนตกหนักมากก!!!

กิจวัตรประจำวัน อาทิตย์แรก :)

วันเสาร์ 
- ปั่นการบ้านๆๆๆ
วันอาทิตย์
- นั่งๆนอนๆ ทำการบ้าน
วันจันทร์ 
- ตื่นสายย เพราะทำการบ้านดึก
วันอังคาร
- ไม่ได้ส่งงาน เพราะลืมเอามา
วันพุธ
- วันนี้หยุดด!! สบายย :)
วันพฤหัสบดี
- วันนี้ก็หยุด 555 นอนน
วันศุกร์ 
- กินๆ นอนๆ เล่นๆ 555

อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับ วัยรุ่น

อาหารสำหรับวัยรุ่นวัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการพลังงานจากอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นวัยที่ร่างกายกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่วนใหญ่มีผลมาจากฮอร์โมน เด็กผู้ชายจะมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น ในเด็กผู้หญิงก็เป็นช่วงวัยที่เริ่มมีประจำเดือนหรือมีสิวเกิดขึ้น ดังนั้นในวัยนี้นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างถูกต้องแล้ว ยังอาจต้องดูแลอาหารบางอย่างเป็นพิเศษ เพื่อช่วยส่งเสริมหรือแก้ปัญหาสภาวะที่เปลี่ยนไปของร่างกาย

เมนูสู่ผิวใสสำหรับวัยรุ่นที่เป็นสิว 

วิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดจากอาหารที่กินเข้าไป สามารถช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสมดุลขึ้นได้วิตามินเอ เป็นวิตามินที่มีความสำคัญกับผิวพรรณมาก และยังช่วยลดการผลิตน้ำมันหรือซีบัมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย 

วิตามินเอมีมากในแคร์รอต ฟักทอง มะละกอ ตำลึง มะม่วงสุก กล้วย มันเทศวิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่ช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุล และยังช่วยควบคุมการเกิดสิว รวมทั้งอาการเจ็บหน้าอกหรือหงุดหงิดก่อนมีประจำเดือนอีกด้วย วิตามินบี 6 พบมากในข้าวซ้อมมือ เนื้อ ตับ ไต อะโวกาโด เมล็ดทานตะวัน ปลาแซลมอล เป็นต้นอาหารที่มีธาตุสังกะสี จะช่วยลดการเกิดสิว และทำให้การดูดซึมวิตามินเอจากอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ผิวพรรณจึงดูเนียมเรียบขึ้น ธาตุสังกะสีพบมากในข้าวซ้อมมือ อาหารที่มีส่วนประกอบของยีสต์ เช่น ขนมปัง ข้าวหมาก อาหารทะเล เนื้อสัตว์อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 กรดไขมันชนิดนี้จะทำให้ต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตน้ำมันได้น้อยลง จึงลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว โอเมกา – 3 พบมากในปลาทูน่า เซลมอน แมคเคอเรล ปลาทู เป็นต้นกินอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น เช่น ผักผลไม้สดทุกชนิด

จานเด็ดสำหรับวันนั้นของเดือน

วัยรุ่นหญิงที่เริ่มมีประจำเดือนควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กเพื่อชดเชยการสูญเสียเลือดในแต่ละเดือน เนื่องจากในวัยรุ่นประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอ บางเดือนอาจจะมาน้อยบางเดือนก็มามาก จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงและผู้ชายมีความต้องการธาตุแหล็กไม่เท่ากัน เด็กผู้หญิงในวัยเริ่มต้นมีประจำเดือนไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน จะต้องการธาตุเหล็กมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า ถ้าเราได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ง่าย 

อาหารที่มีธาตุเหล็ก ได้แก่ ตับ ไต เลือดหมู เนื้อสัตว์ ปลาซาร์ดีน ผักโขม ซี่โครงหมู เต้าเจี้ยวดำ บวบเหลี่ยม เป็นต้น และการช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ประโยชน์ได้ดี ควรกินพร้อมอาหารที่มีวิตามินซี เช่น น้ำผลไม้ น้ำผลไม้ที่จะช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี เช่น น้ำมะนาว รองลงมา ได้แก่ น้ำส้ม น้ำฝรั่ง และที่ช่วยดูดซึมได้ปานกลาง เช่น น้ำสับปะรด น้ำสตรอว์เบอร์รี

วัยรุ่นทุกคนเป็นวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ธาตุอาหารที่สำคัญอย่างแคลเซียมจึงขาดไม่ได้ วัยรุ่นสามารถดื่มนมได้วันละ 2 – 3 แก้ว หรืออาจจะกินโยเกิร์ตได้อีกวันละ 1 ถ้วย เพื่อให้ได้รับแคลเซียม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันอย่างเพียงพอ อาหารอื่น ๆ ที่อุดมด้วยแคลเซียม เช่น ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ ปลากระป๋อง กุ้งแห้ง กะปิ เป็นต้น 

ผักใบเขียวที่มีแคลเซียมสูง เช่น มะขามฝักสด ยอดแค ยอดสะเดา และคะน้า ทั้งแคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้กระดูดแข็งแรงและเจริญดีโดยปกติแล้วอาหารที่มีแคลเซียม ก็จะมีฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย

อาหารของวัยรุ่นนักกีฬา

สำหรับวัยรุ่นนักกีฬานั้นอาจต้องการอาหารเสริมเพิ่มจากปกติเป็นพิเศษ อาหารที่มีสารอาหารต่อไปนี้จะช่วยให้ร่างกายมีพละกำลังและความแข็งแกร่งมากขึ้นอาหารที่มีวิตามินบี 1 เช่น ข้าวโอ๊ต ตับ ไต เนื้อวัว หมู ไก่ ปลา ถั่วต่าง ๆ รำข้าว อาหารที่มีวิตามินบี 1 จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เช่น แขน ขา ทำงานได้ดีขึ้น 

นอกจากนี้ยังช่วยในระบบการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้กลายเป็นพลังงานอีกด้วยอาหารที่มีวิตามินบี 2 เช่น ตับไก่ ถั่วเหลือง เห็ดฟาง ฟักทอง เนื้อวัว นมสด ไข่ไก่ วิตามินบี 2 จะช่วยในกระบวนการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานอาหารที่มีวิตามินบี 5 ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารพบว่านักกีฬาหรือผู้ออกกำลังกายมาก ควรได้รับอาหารที่มีวิตามินบี 5 มากเป็นพิเศษ เพราะวิตามินบี 5 จะทำให้ร่างกายให้ออกซิเจนน้อยลง และยังช่วยให้สมรรถภาพร่างกายดีขึ้นอีกด้วย 

อาหารที่มีวิตามินบี 5 เช่น ถั่งลิสง เมล็ดงา วอลนัต อะโวกาโด แอพริคอตแห้ง แอปเปิล เป็นต้น

อาหารที่มีวิตามินซี จะช่วยให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัวได้ดีขึ้น 

วัยรุ่นนักกีฬาทั้งหลาย จึงควรกินผักผลไม้สดให้มาก เพราะอุดมด้วยเกลือแร่ และวิตามินอาหารที่มีแคลเซียม จะช่วยลดการเกิดตะคริว และทำให้กระดูกแข็งแรง 

อาหารที่มีแคลเซียมมาก เช่น นมสด ผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ต งา ปลาซาร์ดีน ถั่วฝักเขียว เต้าหู้อาหารที่มีแมกนีเซียม จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นดี ไม่อ่อนล้าหรือเป็นตะคริวได้ง่าย 

อาหารที่มีแมกนีเซียมาก เช่น ผงโกโก้ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เนยถั่วอาหารที่มีธาตุสังกะสี จะช่วยให้มีสมาธิและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง 

อาหารที่มีธาตุสังกะสี เช่น หอยนางรม ตับลูกวัว เมล็ดฟักทอง เนื้อซี่โครงหมู ปลาซาร์ดีนในน้ำมัน

อาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ธาตุอาหารทั้งสองชนิดนี้จะช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี ทำให้ไม่เป็นโลหิตจาง นักกีฬาผู้หญิงต้องใส่ใจกับอาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ให้มาก 

อาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า เนื้อปู 

ส่วนอาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ตับ ไข่ไก่ เป็ด เนื้อวัว เนื้อหมูอาหารที่มีโพแทสเซียม จะช่วยป้องกันการเกิดตะคริว อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ปวยเล้ง แรดิช พาร์สนิป วอเตอร์เครส เสาวรส มะละกอ พริกหวานแดง พีช มันฝรั่งบด

อาหารสมองสำหรับวัยรุ่นเรียนหนัก

วัยรุ่นที่เรียนหนักควรได้รับอาหารที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพความจำและการมีสมาธิมากขึ้น อาหารเหล่านั้น ได้แก่

อาหารที่มีวิตามินบี 1 เช่น ไข่แดง มันฝรั่งต้ม ถั่นลันเตา ข้าวซ้อมมือ

อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เป็ดอาหารที่มีกรดโฟลิก เช่น ถั่วลิสง บรอกโคลี กระหล่ำดอก ผักกาดหอม ผักปวยเล้งอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับไก่ ตับหมู เนื้อสัตว์ต่าง ๆ

อาหารที่มีธาตุไอโอดีน เช่น อาหารทะเลอาหารที่มีธาตุแมงกานีส เช่น ถั่วเหลือง อัลมอนด์ มะคาเดเมีย เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อาหารที่มีธาตุซิลิคอน เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ธัญพืชไม่ขัดขาว พืชกินหัวต่าง ๆ

อาหารที่มีธาตุสังกะสีและซีลีเนียม เช่น กระเทียม หอยนางรม หอยแมลงภู่อาหารที่มีเบตาแคโรทีน เช่น แครอท ผักโขม มะม่วงสุก กล้วยไข่ บรอกโคลี

อาหารที่มีโคเอนไซม์คิว 10 เช่น ถั่วเหลือง มันฝรั่ง และผักโขม อาหารที่มีกรดไขมันโอเมกา–3 เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน

10 อันดับผลไม้กินแล้วอ้วน


ทราบหรือไม่ว่าการกินผลไม้นอกจากมีประโยชน์แล้วยังสามารถทำให้อ้วนได้อีก วันนี้มีมาบอก...

10 อันดับผลไม้กินแล้วอ้วน


การกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้

ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่ 

อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า

อันดับ 3 คือ ขนุน

อันดับ 4 คือ กล้วยหอม 

อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก

อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว

อันดับ 7 คือ ลองกอง

อันดับ 8 คือ เงาะ

อันดับ 9 คือ ลางสาด

อันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุด

แต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม

8 ผลไม้เพื่อผิวขาว


8 ผลไม้เพื่อผิวขาว
1.มะเขือเทศ ช่วยชะลอวัยให้อ่อนเยาว์ และป้องกันความเสื่อมของเซลล์

2.มะนาว มีวิตามินซีสูงช่วยให้ผิวเนียนใส

3.ส้ม เสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว

4.ฝรั่ง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยวิตามินซีปริมาณสูง
5.แตงโม บำรุงผิวพรรณ ช่วยล้างไต และขับปัสสาวะ

6.กล้วยหอม เหมาะกับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว และอยู่ท้องนาน

7.มะละกอ เป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก

8.แอปเปิ้ล อุดมด้วยเพคติน จึงช่วยให้เล็บแข็งแรง

น่ารู้! อาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว

ใครอยากมีผิวขาว ผิวสวย ผิวใส ฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเรามีอาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว ผิวใส มาฝากกันด้วยจ้า อะไรจะดีไปกว่าอาหารที่มาจากแหล่งธรรมชาติล่ะจริงไหมจ๊ะ อาหารเพื่อผิวสวย เหล่านี้นอกจากจะมาจากธรรมชาติแล้วยังหาซื้อได้ง่ายและไม่ส่งผลอันตรายอย่างแน่นอนค่ะที่สำคัญยังช่วยเราเซฟตังในกระเป๋าอีกด้วยน๊า...อยากรู้กันบ้างไหมเอ่ยว่า อาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว ผิวใส นั้นมีอะไรกันบ้างน๊า...วันนี้เรามีเรื่อง อาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว ผิวใส มาฝากและไม่ใช่เพียงเท่านั้นเรายังมี อาหารทำลายผิว มาฝากกันอีกด้วยค่ะ

พ.ญ.กานต์ชนก พานิช กรรมการผู้จัดการ กานต์ชนกคลินิก ให้ความรู้ถึงการรักษาผิวสวยของสาว ๆ ทุกวัย ที่เกี่ยวข้องกับการกินอาหาร โดยเน้นสารกลูต้าไธโอนเป็นพิเศษ เพราะสารตัวนี้เป็นโฮโมนชนิดหนึ่งที่ตับเป็นผู้สร้างมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนต์) เซลล์ไม่ถูกทำลายกลายเป็นเซลล์ที่แข็งแรงส่งผลให้เซลล์ใต้ผิวหนังแข็งแรงตามไปด้วยทำให้เม็ดสีลดลงผิวจึงขาวขึ้น

แหล่งกลูต้าไธโอนมีอยู่ในสารสกัดจากธรรมชาติมากมายที่เด่น ๆ คือ เปลือกสนฝรั่งเศส หากเป็นเปลือกสนสีส้มอ่อนจะมีคุณสมบัติในการแอนตี้ออกซิแดนต์ทำให้ขาวได้ เนื่องจากพืชตระกูลเปลือกสนมีคุณสมบัติช่วยเปิดเส้นเลือดหัวใจช่วยทำลายพลักหรือคราบไขมันที่เกาะในเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดไม่ยืดหยุ่นเกิดภาวะการอุดตันเส้นเลือดตีบลงทำให้ส่งผ่านเลือดไปสู่หัวใจได้น้อยลง

กลูต้าไธโอนในธรรมชาติมีอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในข้าวซ้อมมือของไทยเรานี่เอง กินข้าวซ้อมมือวันละ 3 มื้อ เราจะได้กลูต้าไธโอนธรรมชาติที่ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ยังพบในผัก ผลไม้ อาทิ แตงโม สตรอว์เบอร์รี่ องุ่น ผลอะโวคาโด สำหรับเนื้อสัตว์พบในปลาและเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ฯลฯ

"You are what you eat" หรือ กินเช่นไรได้เช่นนั้น ยังคงเป็นประโยคที่หลาย ๆ คนเห็นด้วย หากรวมอาหารนี้ไว้ในมื้ออาหารที่เรารับประทานก็จะได้ผิวพรรณที่สวยสมบูรณ์แบบ


อาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว ผิวใส


9 อาหารเพื่อผิวสวย ผิวขาว


1. ส้ม อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนวัย

2. มะนาว อุดมด้วยวิตามินซี ที่มีประโยชน์ ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย

3. แครอท ให้คุณค่าเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ อาหารที่จำเป็นสำหรับผิว

4. กีวี ประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจน

5. อะโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิว การกินอะโวคาโดวันละผล ให้วิตามินอีเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันได้

6. โยเกิร์ต ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ผิวพรรณสดใส ไม่หมองคล้ำ

7. เมล็ดถั่วต่าง ๆ อุดมด้วยโปรตีน สารอาหารที่จำเป็นสำหรับผิวสวย

8. งา อุดมด้วยวิตามินบี สังกะสี และโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสอ่อนวัยอยู่เสมอ

9. ผักโขม อุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งอมชมพูดูมีสุขภาพดี และ 10.ปลาอุดมไขมัน เช่น ปลาแซลมอน น้ำมันปลาช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น

8 ผลไม้ลดความอ้วน

8 ผลไม้ลดความอ้วน ที่สาว ๆ ต้องลิ้มลอง
    คุณ สาว ๆ คนไหนที่ปรารถนาจะมีหุ่นเพรียวสวยได้สัดส่วน ก็มักจะเลือกทานผลไม้เป็นของว่าง หรือบางรายก็ทานผลไม้แทนอาหารหลักบางมื้อเลยทีเดียว เพื่อที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ ว่า แต่...จะเลือกทานผลไม้อะไรดีล่ะ ถึงจะช่วยลดความอ้วนได้แบบสบาย ๆ แถมยังอิ่มท้อง วันนี้ เราก็มีผลไม้ 8 ชนิด ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้ไม่ยากมาบอกกัน
 
 แอปเปิ้ล

          ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ เพราะแอปเปิ้ลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว

          นอกจากนั้นแล้ว แอปเปิ้ลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย
 
 ฝรั่ง

          สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย

          เพราะฉะนั้น หิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่า ๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ

 แตงโม

          แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย

 
ส้ม

          สาว ๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมด เพื่อให้ทานได้ง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ

 มะละกอ

          มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้

 แก้วมังกร

          แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง

          และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย
 
 กีวี

          อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย

 เกรปฟรุต 

          สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง